涙の虹 くぐり抜けたら
あの笑顔みせて
今日はだれもが喜びの色 さぁみんな歌おう
Namida no niji kugurinuketara
Ano egao misete
Kyou wa dare mo ga yorokobi no iro saa minna utaou
สายรุ้งแห่งน้ำตา ถ้าหากว่าก้าวผ่านไปได้แล้ว
โปรดยิ้มให้เห็นด้วยเถอะนะ
ในวันนี้ที่ทุกคนมีสีหน้าแห่งความสุข ฉะนั้นทุกคนร้องเพลงกันเถอะ
あなたと出会った日を思い出しています
Shiny shiny days (Shiny shiny days)
その笑い声に 何度救われたのでしょう
Thank you, thank you friend
(Thank you, thank you friend)
Anata to deatta hi wo omoidashite imasu
Shiny shiny days (shiny shiny days)
Sono waraigoe ni nando sukuwa reta nodeshou
Thank you, thank you friend (thank you, thank you friend)
เมื่อรำลึกนึกถึงวันที่ได้พบกับเธอ
Shiny shiny days (Shiny shiny days)
ถูกเสียงหัวเราะนั้นช่วยเหลือไว้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
Thank you, thank you friend
(Thank you, thank you friend)
心が乾く日々も
枯れぬように その愛を(その愛を)
育てるんだ(育てるんだ)
あなたをずっとずっと守るから
Kokoro ga kawaku hibi mo
Karenu you ni sono ai wo (sono ai wo)
Sodaterunda (sodaterunda)
Anata wo zutto zutto mamoru kara
แม้ในช่วงเวลาที่หัวใจแห้งผาก
ราวกับจะร่วงโรยไป ความรักครั้งนั้น (ความรักครั้งนั้น)
ยังคงเติบโต (ยังคงเติบโต)
และจะเก็บรักษาเธอเอาไว้ในนั้นไปตลอด
涙の虹 くぐり抜けたら
あの笑顔みせて
こんな世界にも花は咲くのと 空に叫ぶんだ
あなたのしあわせ願う
MUSIC
Namida no niji kugurinuketara
Ano egao misete
Konna sekai ni mo hana wa saku no to sora ni sakebunda
Anata no shiawase negau
MUSIC
สายรุ้งแห่งน้ำตา ถ้าหากว่าก้าวผ่านไปได้แล้ว
โปรดยิ้มให้เห็นด้วยเถอะนะ
จะตะโกนใส่ท้องฟ้า ว่าในแม้แต่ในโลกแบบนี้ก็ยังมีดอกไม้เบ่งบานได้
บทเพลงที่ปรารถนาให้เธอมีความสุข
La la la la la…
今日を恋しく思う時もくるでしょう
Hey!振り向くときはみんなここにいる 安心して進めよ
あなたが作っていく未来 (Hey!)どんな景色かな?
(大事なひとも) きっともっと (増えていく)
Kyou wo koishiku omou toki mo kurudeshou
Hey! furimuku toki wa minna koko ni iru anshin shite susumeyo
Anata ga tsukutte iku mirai (Hey!) donna keshiki ka na? (Daijina hito mo) kitto motto (fuete iku)
แม้แต่ในวันนี้ ก็ยังนึกถึงช่วงเวลาที่รักกันอยู่ใช่มั้ย
เฮ้ เมื่อหันกลับมา ทุกคนก็จะยังอยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นมุ่งหน้าไปอย่างสบายใจเถอะ
อนาคตที่เธอจะสร้างขึ้นน่ะ (เฮ้) จะมีทิวทัศน์แบบไหนกันนะ (เหล่าคนสำคัญเองก็เช่นกัน) จะต้องดียิ่งกว่านี้แน่ (จะต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน)
遠くなってくみたいで
飛ばせずに握ってた(握ってた)
この想い(この想い)
今 高く飛ばそう
おめでとう
Tooku natte ku mitai de
Tobasezu ni nigitteta (nigitteta)
Kono omoi (kono omoi)
Ima takaku tobasou omedetou
เหมือนว่าจะห่างออกไปไกลแสนไกล
กดเก็บเอาไว้ไม่ให้โบยบิน (กดเก็บเอาไว้)
ความรู้สึกนี้ (ความรู้สึกนี้)
ในตอนนี้ จะปล่อยออกบินให้สูงลิ่ว ยินดีด้วยนะ
ぎゅっと繋いだ手を離すとき
あの笑顔みせて
こんな世界にも花は咲くのと 空に叫ぶんだ
あなたのしあわせ願う
MUSIC
Gyutto tsunaida te wo hanasu toki
Ano egao misete
Konna sekai ni mo hana wa saku no to sora ni sakebunda
Anata no shiawase negau
MUSIC
ยามที่มือที่ถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาได้ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระแล้ว
โปรดยิ้มให้เห็นด้วยเถอะนะ
จะตะโกนใส่ท้องฟ้า ว่าในแม้แต่ในโลกแบบนี้ก็ยังมีดอกไม้เบ่งบานได้
บทเพลงที่ปรารถนาให้เธอมีความสุข
「Okay everyone, clap your hands!」
Clap clap, everybody…
Clap clap clap clap clap
May the love and happiness last forever.
La la la la la…
さぁみんな歌おう!
Saa minna utaou!
เอาล่ะ ทุกคน ร้องเพลงกันเถอะ
涙の虹 くぐり抜けたら
あの笑顔みせて
ねぇ ありがとう 希望の空を見せてくれたこと
Namida no niji kugurinuketara
Ano egao misete
Nee arigatou kibou no sora wo misete kureta koto
สายรุ้งแห่งน้ำตา ถ้าหากว่าก้าวผ่านไปได้แล้ว
โปรดยิ้มให้เห็นด้วยเถอะนะ
นี่ ขอบใจมากนะ ที่เคยช่วยทำให้ได้เห็นท้องฟ้าแห่งความหวัง
(I'll be)喜びってあったかいね
(I'll be)胸の中の太陽だね
(always)溢れだした涙だね
(with you)こうして分けあえるんだね
(I'll be)見失いそうになっても
(I'll be)会えなくなる日がきても
(always)あなたのそばにいること
(with you)それだけは忘れないで
(I'll be) yorokobi tte attakai ne
(I'll be) mune no naka no taiyou dane
(always) afure dashita namida dane
(with you) koshite wake aerun dane
(I'll be) miushinai sou ni natte mo
(I'll be) aenaku naru hi ga kite mo
(always) anata no soba ni iru koto
(with you) soredake wa wasurenaide
(ชั้นจะ) ความปิติยินดี ความอบอุ่น
(อยู่) ดวงตะวันที่ส่องสว่างอยู่ในหัวใจ
(ข้างเธอ) น้ำตาที่หลั่งรินไหล
(เสมอ) ทำแบบนี้แล้วจะถ่ายทอดให้รับรู้ได้รึเปล่านะ
(ชั้นจะ) แม้ว่าจะหายลับไปจากสายตา
(อยู่) แม้ว่าวันที่ไม่ได้พบกันอีกจะมาถึง
(ข้างเธอ) เรื่องที่ชั้นอยู่เคียงข้างเธอ
(เสมอ) แค่เรื่องนั้น อย่าได้ลืมเลือนไปนะ
あなたのしあわせ願う
今日はみんなしあわせ歌う
MUSIC
Anata no shiawase negau
Kyou wa minna shiawase utau
MUSIC
ปรารถนาให้เธอมีความสุข
ในวันนี้จึงขับร้องบทเพลงให้ทุกคนมีความสุข
Kenguin's Hideout
วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2561
วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561
014. [lyric translation] I come back to you / Goose House
当たりさわりのない日々が
目まぐるしく色を変えた
あなたの夢をみたの
愛しい温もりだった
สีสันของคืนและวันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกับช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างไม่มีความสลักสำคัญ
ยังคงตกหลุมรักในความอบอุ่นจากการฝันถึงเธออยู่
雪の降らないこの街で
気づけばぼんやり浮かべていた
君のいたずらな顔
ในเมืองที่ไร้ซึ่งหิมะแห่งนี้ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็มีใบหน้าแฝงเลศนัยของเธอล่องลอยอยู่
他の誰かが君を愛しても
たったひとりの大事なひと
いつになっても消えないよ
แม้ว่าจะมีใครคนอื่นนอกจากชั้นที่รักเธอเช่นกัน
คนสำคัญที่มีเพียงคนหนึ่งคนเดียวเท่านั้น
กาลเวลาจะเปลี่ยนไปเมื่อใดก็ไม่ลบเลือนจางไป
I come back to you
忘れないでいて きっと同じ気持ちでいて
語りかけるよ
何度でも 心はあなたへと
I come back to you
傷ついた夜は そっと耳すませばほら
歌っているよ
誰も知らない ふたりのヘルツ
I come back to you
อย่าลืมเด็ดขาดเลยนะ ความรู้สึกยังเป็นเช่นเดิมอย่างแน่นอน
จะประกาศให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หัวใจก็กลับไปหาเธอ
I come back to you
ในค่ำคื่นที่เจ็บปวด หาตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงอันแผ่วเบา
บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่
ในย่านความถี่ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
街角 すれ違う人はこんなにたくさんいるのに
あなただけに会いたい
今はどこにいるだろう
ทั้งๆที่มีผู้คนจำนวนมากมายขนาดนี้ผ่านไปผ่านมาตามซอกมุมของเมืองแท้ๆ
อยากพบแต่เธอเท่านั้น
ในตอนนี้จะอยู่ที่ใดกันแน่นะ
ふたり星を見上げたあのとき
あなたをずっと守りたい
叶わなくても 願ったの
เมื่อครั้งที่เราสองคนได้มองดูดวงดาวด้วยกันในตอนนั้น
อยากจะปกป้องเธอตลอดไป
แม้ว่าจะเป็นความปรารถนาที่ไม่กลายเป็นความจริงก็ตาม
I come back to you
忘れないでほしい きっと幸せでいてほしい
語りかけるよ
何度でも 心はあなたへと
I come back to you
心細い朝は ふっと立ち止まればほら
歌っているよ
誰も知らない ふたりのヘルツ
I come back to you
อยากให้เธอไม่ลืมเรื่องนั้น ว่าชั้นต้องการให้เธอมีความสุขอย่างแน่นอน
จะประกาศให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หัวใจก็กลับไปหาเธอ
I come back to you
ในยามเช้าที่ท้อแท้ หากลองหยุดยืนอยู่เฉยๆก็จะได้ยิน
บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่
ในย่านความถี่ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
遠くなっていく
思い出の中で
ふたりだけの場所
守って行くよ
ในความทรงจำที่มีแต่จะห่างไกลออกไป
สถานที่ที่เป็นแค่ของเราสองคนเท่านั้น
จะปกป้องมันเอาไว้
I come back to you
忘れないでいて きっと幸せでいるから
語りかけるよ
何度でも 心はあなたへと
I come back to you
傷ついた夜は そっと耳すませばほら
歌っているよ
誰も知らない ふたりのヘルツ
I come back to you
อย่าลืมเด็ดขาดเลยนะ ความรู้สึกยังเป็นเช่นเดิมอย่างแน่นอน
จะประกาศให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หัวใจก็กลับไปหาเธอ
I come back to you
ในค่ำคื่นที่เจ็บปวด หาตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงอันแผ่วเบา
บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่
ในย่านความถี่ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
I come back to you
I come back to you...
目まぐるしく色を変えた
あなたの夢をみたの
愛しい温もりだった
สีสันของคืนและวันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกับช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างไม่มีความสลักสำคัญ
ยังคงตกหลุมรักในความอบอุ่นจากการฝันถึงเธออยู่
雪の降らないこの街で
気づけばぼんやり浮かべていた
君のいたずらな顔
ในเมืองที่ไร้ซึ่งหิมะแห่งนี้ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็มีใบหน้าแฝงเลศนัยของเธอล่องลอยอยู่
他の誰かが君を愛しても
たったひとりの大事なひと
いつになっても消えないよ
แม้ว่าจะมีใครคนอื่นนอกจากชั้นที่รักเธอเช่นกัน
คนสำคัญที่มีเพียงคนหนึ่งคนเดียวเท่านั้น
กาลเวลาจะเปลี่ยนไปเมื่อใดก็ไม่ลบเลือนจางไป
I come back to you
忘れないでいて きっと同じ気持ちでいて
語りかけるよ
何度でも 心はあなたへと
I come back to you
傷ついた夜は そっと耳すませばほら
歌っているよ
誰も知らない ふたりのヘルツ
I come back to you
อย่าลืมเด็ดขาดเลยนะ ความรู้สึกยังเป็นเช่นเดิมอย่างแน่นอน
จะประกาศให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หัวใจก็กลับไปหาเธอ
I come back to you
ในค่ำคื่นที่เจ็บปวด หาตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงอันแผ่วเบา
บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่
ในย่านความถี่ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
街角 すれ違う人はこんなにたくさんいるのに
あなただけに会いたい
今はどこにいるだろう
ทั้งๆที่มีผู้คนจำนวนมากมายขนาดนี้ผ่านไปผ่านมาตามซอกมุมของเมืองแท้ๆ
อยากพบแต่เธอเท่านั้น
ในตอนนี้จะอยู่ที่ใดกันแน่นะ
ふたり星を見上げたあのとき
あなたをずっと守りたい
叶わなくても 願ったの
เมื่อครั้งที่เราสองคนได้มองดูดวงดาวด้วยกันในตอนนั้น
อยากจะปกป้องเธอตลอดไป
แม้ว่าจะเป็นความปรารถนาที่ไม่กลายเป็นความจริงก็ตาม
I come back to you
忘れないでほしい きっと幸せでいてほしい
語りかけるよ
何度でも 心はあなたへと
I come back to you
心細い朝は ふっと立ち止まればほら
歌っているよ
誰も知らない ふたりのヘルツ
I come back to you
อยากให้เธอไม่ลืมเรื่องนั้น ว่าชั้นต้องการให้เธอมีความสุขอย่างแน่นอน
จะประกาศให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หัวใจก็กลับไปหาเธอ
I come back to you
ในยามเช้าที่ท้อแท้ หากลองหยุดยืนอยู่เฉยๆก็จะได้ยิน
บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่
ในย่านความถี่ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
遠くなっていく
思い出の中で
ふたりだけの場所
守って行くよ
ในความทรงจำที่มีแต่จะห่างไกลออกไป
สถานที่ที่เป็นแค่ของเราสองคนเท่านั้น
จะปกป้องมันเอาไว้
I come back to you
忘れないでいて きっと幸せでいるから
語りかけるよ
何度でも 心はあなたへと
I come back to you
傷ついた夜は そっと耳すませばほら
歌っているよ
誰も知らない ふたりのヘルツ
I come back to you
อย่าลืมเด็ดขาดเลยนะ ความรู้สึกยังเป็นเช่นเดิมอย่างแน่นอน
จะประกาศให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หัวใจก็กลับไปหาเธอ
I come back to you
ในค่ำคื่นที่เจ็บปวด หาตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงอันแผ่วเบา
บทเพลงที่กำลังขับขานอยู่
ในย่านความถี่ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
I come back to you
I come back to you...
วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561
013. [lyric translation] 僕らだけの等身大 / Goose House
思い上がったプライドは 何度もやぶり捨てたのに
Omoiagatta PRIDE wa Nando mo yaburisuteta no ni
ความหยิ่งทะนงที่จองหองอวดดี ทั้งๆที่หลีกหนีและโยนมันทิ้งไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
転べばやっぱり痛くって うなされながら 寝返りをうつ夜
Korobeba yappari itakutte Unasare nagara negaeri wo utsu yoru
เมื่อได้สะดุดล้มแล้วล่ะก็ อย่างที่คิดมันช่างเจ็บปวด ในขณะที่ฝันร้ายก็นอนกระสับกระส่ายในยามค่ำคืน
時間の槍に追いやられ 無情の盾にはじかれて
Jikan no yari ni oiyarare Mujou no tate ni hajikarete
หอกแห่งกาลเวลาที่พุ่งทะยานไป ถูกหยุดไว้ด้วยโล่ห์ที่ไร้ความปราณี
仰向けに空見上げてた 納得させて また立ち上がって
Aomuke ni sora miageteta Nattoku sasete mata tachiagatte
แหงนหน้ามองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน แล้วทำใจยอมรับให้ได้ และยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง
いつかやれる もっとやれる 今は頼りない言い訳も
Itsuka yareru motto yareru Ima wa tayorinai iiwake mo
ซักวันจะต้องทำได้ ต้องทำได้มากกว่านี้ แม้ว่าตอนนี้จะยังพึ่งพาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
きっとどこかで本気にしてるんだ あきらめてないんだ
Kitto dokoka de honki ni shiterunda Akirametenainda
กำลังพยายามจากใจจริงอยู่ที่ใดซักแห่ง จะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
夢を見るならどうしたって背伸びはするんだ
Yume wo miru nara doushita tte senobi wa surunda
ถ้าหากยังมีความฝันได้แล้วล่ะก็จะมีปัญหาอะไรล่ะถ้ามันจะเกินตัวไปบ้าง
頬に打ちつける雨に目を細めても
Hoho ni uchitsukeru ame ni me wo hosomete mo
แม้ว่าจะต้องหรี่ตาให้กับน้ำฝนที่ไหลกระทบแก้มก็ตาม
誰かの真似をしたって 心は削ぎ落とせないさ
Dareka no mane wo shita tte kokoro wa sogi otosenai sa
การเลียนแบบใครซักคนไม่ได้ทำจิตใจถูกทำลายย่อยยับหรอกนะ
でこぼこだっていいから 僕らだけの等身大を描くよ
Dekoboko datte ii kara Bokura dake no toushindai wo egaku yo
ถึงต้องตรากตรำก็ไม่เป็นไร จะเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรา
拾ったまんまの言葉を 並べてもすぐ見抜かれて
Hirotta manma no kotoba wo Narabete mo sugu minukarete
แม้ว่าจะตั้งใจเลือกถ้อยคำมาร้อยเรียงอย่างไรก็มองทะลุได้ในทันที
情けない心臓に刺さる 冷たい視線 いつも怯えている
Nasakenai shinzou ni sasaru Tsumetai shisen itsumo obiete iru
ว่าสายตาเย็นชาที่จมปลักอยู่กับหัวใจที่โศกเศร้า แท้จริงกำลังหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
奇抜な真似はできなくて 常識はいかがわしくて
Kibatsu na mane wa dekinakute Joushiki wa ikagawashikute
ไม่สามารถลอกเลียนในเรื่องมหัศจรรย์ได้ เรื่องธรรมดาสามัญก็ดูไม่เข้าท่า
地に足つけられないまま 机の上で ずっと縮こまって
Chi ni ashi tsukerarenai mama Tsukue no ue de zutto chijikomatte
ขดตัวอยู่บนโต๊ะตลอดเวลาทั้งๆที่เท้าไม่ติดพื้น
いつか見える きっと見える 黄昏れた希望さえも
Itsuka mieru kitto mieru Tasogareta kibou sae mo
ซักวันจะต้องมองเห็น จะต้องมองเห็นเป็นแน่ แม้ว่าจะเป็นแค่ความหวังริบหรี่ก็ตาม
あてにしながら じたばたしてるんだ 信じてみたいんだ
Ate ni shinagara Jitabata shiteru'n da Shinjite mitai'n da
ในชณะที่กำลังเสี่ยงดวงนี้ จะลองเชื่อมั่นและดิ้นรนกระเสือกกระสนต่อไป
夢を見る道はいつだって 真っ暗で手探りで
Yume wo miru michi wa itsu datte Makkura de tesaguri de
เส้นทางความฝันไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เหมือนกับการคลำสะเปะสะปะอยู่ในความมืดมิด
かかとすり抜ける風に背が震えても
Kaka to surinukeru kaze ni se ga furuete mo
แม้ว่าจะแผ่นหลังจรดปลายเท้าจะกำลังสั่นไหวก็ตาม
誰かの足跡だって 真っすぐには伸びてないさ
Dareka no ashiato datte massugu ni wa nobitenai sa
รอยเท้าของคนอื่นเอง ก็ไม่ได้มุ่งตรงไปที่ทางออกแบบทันทีหรอกนะ
曲がりくねっていいから 僕らだけの等身大を描くよ
Magarikunette ii kara Bokura dake no toushindai wo egaku yo
ถึงจะวกวนคดเคี้ยวก็ไม่เป็นไร จะเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรา
誰と比べ 何を重ね 僕の等身大と言うの?
Dare to kurabe nani wo kasane Boku no toushindai to iu no?
จะเปรียบเทียบกับใคร จะสั่งสมสิ่งใด เพื่อใส่ในเรื่องราวชีวิตของตัวชั้น?
初めての服を試すような 不安な顔のままで
Hajimete no fuku wo tamesu you na Fuan na kao no mama de
ก็เหมือนกับการทดลองใส่ชุดใหม่ๆเป็นครั้งแรกด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ
夢を見るならどうしたって強気にならなきゃ
Yume wo miru nara doushita tte tsuyoki ni naranakya
ถ้าหากยังมีความฝันได้แล้วล่ะก็จะมีปัญหาอะไรล่ะถ้าจิตใจไม่ได้เข้มแข็ง
頬に打ちつける雨も笑いとばせたら
Hoho ni uchitsukeru ame mo warai tobasetara
ถ้ายังหัวเราะได้แม้ว่าจะมีน้ำฝนที่ไหลกระทบแก้มแล้วล่ะก็
誰かの真似をしたって 心は削ぎ落とせないさ
Dareka no mane wo shita tte kokoro wa sogi otosenai sa
การเลียนแบบใครซักคนไม่ได้ทำจิตใจถูกทำลายย่อยยับหรอกนะ
でこぼこだっていいから 僕らだけの等身大を描こう
Dekoboko datte ii kara bokura dake no toushindai wo egakou
ถึงต้องตรากตรำก็ไม่เป็นไร มาเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรากันเถอะ
僕らだけの等身大を描こう
bokura dake no toushindai wo egakou
มาเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรากันเถอะ
Omoiagatta PRIDE wa Nando mo yaburisuteta no ni
ความหยิ่งทะนงที่จองหองอวดดี ทั้งๆที่หลีกหนีและโยนมันทิ้งไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
転べばやっぱり痛くって うなされながら 寝返りをうつ夜
Korobeba yappari itakutte Unasare nagara negaeri wo utsu yoru
เมื่อได้สะดุดล้มแล้วล่ะก็ อย่างที่คิดมันช่างเจ็บปวด ในขณะที่ฝันร้ายก็นอนกระสับกระส่ายในยามค่ำคืน
時間の槍に追いやられ 無情の盾にはじかれて
Jikan no yari ni oiyarare Mujou no tate ni hajikarete
หอกแห่งกาลเวลาที่พุ่งทะยานไป ถูกหยุดไว้ด้วยโล่ห์ที่ไร้ความปราณี
仰向けに空見上げてた 納得させて また立ち上がって
Aomuke ni sora miageteta Nattoku sasete mata tachiagatte
แหงนหน้ามองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน แล้วทำใจยอมรับให้ได้ และยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง
いつかやれる もっとやれる 今は頼りない言い訳も
Itsuka yareru motto yareru Ima wa tayorinai iiwake mo
ซักวันจะต้องทำได้ ต้องทำได้มากกว่านี้ แม้ว่าตอนนี้จะยังพึ่งพาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
きっとどこかで本気にしてるんだ あきらめてないんだ
Kitto dokoka de honki ni shiterunda Akirametenainda
กำลังพยายามจากใจจริงอยู่ที่ใดซักแห่ง จะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
夢を見るならどうしたって背伸びはするんだ
Yume wo miru nara doushita tte senobi wa surunda
ถ้าหากยังมีความฝันได้แล้วล่ะก็จะมีปัญหาอะไรล่ะถ้ามันจะเกินตัวไปบ้าง
頬に打ちつける雨に目を細めても
Hoho ni uchitsukeru ame ni me wo hosomete mo
แม้ว่าจะต้องหรี่ตาให้กับน้ำฝนที่ไหลกระทบแก้มก็ตาม
誰かの真似をしたって 心は削ぎ落とせないさ
Dareka no mane wo shita tte kokoro wa sogi otosenai sa
การเลียนแบบใครซักคนไม่ได้ทำจิตใจถูกทำลายย่อยยับหรอกนะ
でこぼこだっていいから 僕らだけの等身大を描くよ
Dekoboko datte ii kara Bokura dake no toushindai wo egaku yo
ถึงต้องตรากตรำก็ไม่เป็นไร จะเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรา
拾ったまんまの言葉を 並べてもすぐ見抜かれて
Hirotta manma no kotoba wo Narabete mo sugu minukarete
แม้ว่าจะตั้งใจเลือกถ้อยคำมาร้อยเรียงอย่างไรก็มองทะลุได้ในทันที
情けない心臓に刺さる 冷たい視線 いつも怯えている
Nasakenai shinzou ni sasaru Tsumetai shisen itsumo obiete iru
ว่าสายตาเย็นชาที่จมปลักอยู่กับหัวใจที่โศกเศร้า แท้จริงกำลังหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
奇抜な真似はできなくて 常識はいかがわしくて
Kibatsu na mane wa dekinakute Joushiki wa ikagawashikute
ไม่สามารถลอกเลียนในเรื่องมหัศจรรย์ได้ เรื่องธรรมดาสามัญก็ดูไม่เข้าท่า
地に足つけられないまま 机の上で ずっと縮こまって
Chi ni ashi tsukerarenai mama Tsukue no ue de zutto chijikomatte
ขดตัวอยู่บนโต๊ะตลอดเวลาทั้งๆที่เท้าไม่ติดพื้น
いつか見える きっと見える 黄昏れた希望さえも
Itsuka mieru kitto mieru Tasogareta kibou sae mo
ซักวันจะต้องมองเห็น จะต้องมองเห็นเป็นแน่ แม้ว่าจะเป็นแค่ความหวังริบหรี่ก็ตาม
あてにしながら じたばたしてるんだ 信じてみたいんだ
Ate ni shinagara Jitabata shiteru'n da Shinjite mitai'n da
ในชณะที่กำลังเสี่ยงดวงนี้ จะลองเชื่อมั่นและดิ้นรนกระเสือกกระสนต่อไป
夢を見る道はいつだって 真っ暗で手探りで
Yume wo miru michi wa itsu datte Makkura de tesaguri de
เส้นทางความฝันไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เหมือนกับการคลำสะเปะสะปะอยู่ในความมืดมิด
かかとすり抜ける風に背が震えても
Kaka to surinukeru kaze ni se ga furuete mo
แม้ว่าจะแผ่นหลังจรดปลายเท้าจะกำลังสั่นไหวก็ตาม
誰かの足跡だって 真っすぐには伸びてないさ
Dareka no ashiato datte massugu ni wa nobitenai sa
รอยเท้าของคนอื่นเอง ก็ไม่ได้มุ่งตรงไปที่ทางออกแบบทันทีหรอกนะ
曲がりくねっていいから 僕らだけの等身大を描くよ
Magarikunette ii kara Bokura dake no toushindai wo egaku yo
ถึงจะวกวนคดเคี้ยวก็ไม่เป็นไร จะเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรา
誰と比べ 何を重ね 僕の等身大と言うの?
Dare to kurabe nani wo kasane Boku no toushindai to iu no?
จะเปรียบเทียบกับใคร จะสั่งสมสิ่งใด เพื่อใส่ในเรื่องราวชีวิตของตัวชั้น?
初めての服を試すような 不安な顔のままで
Hajimete no fuku wo tamesu you na Fuan na kao no mama de
ก็เหมือนกับการทดลองใส่ชุดใหม่ๆเป็นครั้งแรกด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ
夢を見るならどうしたって強気にならなきゃ
Yume wo miru nara doushita tte tsuyoki ni naranakya
ถ้าหากยังมีความฝันได้แล้วล่ะก็จะมีปัญหาอะไรล่ะถ้าจิตใจไม่ได้เข้มแข็ง
頬に打ちつける雨も笑いとばせたら
Hoho ni uchitsukeru ame mo warai tobasetara
ถ้ายังหัวเราะได้แม้ว่าจะมีน้ำฝนที่ไหลกระทบแก้มแล้วล่ะก็
誰かの真似をしたって 心は削ぎ落とせないさ
Dareka no mane wo shita tte kokoro wa sogi otosenai sa
การเลียนแบบใครซักคนไม่ได้ทำจิตใจถูกทำลายย่อยยับหรอกนะ
でこぼこだっていいから 僕らだけの等身大を描こう
Dekoboko datte ii kara bokura dake no toushindai wo egakou
ถึงต้องตรากตรำก็ไม่เป็นไร มาเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรากันเถอะ
僕らだけの等身大を描こう
bokura dake no toushindai wo egakou
มาเขียนเรื่องราวชีวิตที่เป็นแค่ของพวกเรากันเถอะ
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
012. [lyric translation] たとえば君が死んだら / Goose House
たとえば君が死んだら / ถึงแม้ว่าถ้าหากเธอตาย by Goose House
update 20171114 แก้แปลผิดด้วยความช่วยเหลือของ Satsuki Halfen
update 20171114 แก้แปลผิดด้วยความช่วยเหลือของ Satsuki Halfen
締め切ったカーテン越しに
shimekitta CURTAIN goshi ni
เหนือผ้าม่านที่ถูกปิดตาย
朝日は容赦なく差し込んで
asa hi wa youshanaku sashikonde
แสงอาทิตย์ยามเช้ายังลอดเข้ามาอย่างไม่มีการผ่อนปรน
君はまた昨日の夢に笑顔を置き忘れてきたみたいだ
kimi wa mata kinou no yume ni egao wo okiwasuretekita mitaida
ราวกับว่าเธอยังคงทิ้งรอยยิ้มเอาไว้ในความฝันเมื่อวันวาน
いつからだろう? 君が少し朝がくるのを怖がり始めた
itsu kara darou? kimi ga sukoshi asa ga kuru no wo kowagari hajimeta
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่เธอเริ่มจะหวาดกลัวเล็กน้อยกับการมาของเช้าวันใหม่
疲れた顔 隠すように曖昧な笑顔でごまかしても
tsukareta kao kakusu youni aimaina egao de gomakashitemo
เพื่อที่จะซ่อนใบหน้าอันเหน็ดเหนื่อย จึงเสแสร้งด้วยรอยยิ้มที่ไม่ชัดเจน
交差点に立った君は迷子のように不安気に見えた
kousatten ni tatta kimi wa naiko no you ni fuange ni mieta
ตัวเธอที่ยืนอยู่ตรงแยก ดูเหมือนกับเด็กหลงทางที่กังวลใจ
何にも持たず生まれてきた自分のこと責めてるけれど
nanimo motazu umarete kita jibun no koto semeteru keredo
แม้ว่าจะโทษตนเองที่เกิดมาโดยที่ไม่มีอะไรเลยซักอย่าง
たとえば、君が死んでも 世界は変わらない 悲しいほど
tatoeba kimi ga shindemo sekai wa kawaranai kanashii hodo
ต่อให้เธอตายจากไปก็ตาม โลกนี้ก็ไม่แปรเปลี่ยน ยังน่าโศกเศร้าอยู่เช่นนั้น
でもそこに生きている僕は変わるだろう
demo soko ni ikiteiru boku wa kawaru darou?
แต่ว่าตัวชั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็คงจะเปลี่ยนไป
今日までの 君が作った 輝きを胸に残して
kyou made no kimi ga tsukutta kagayaki wo mune ni nokoshite
ประกายในใจชั้น ที่เธอได้สร้างขึ้นจนถึงวันนี้ ก็คงดับไป
真っ白なシーツにつけた透明な涙のシミは消えても
masshirona SHEET ni tsuketa toumeina namida no SIMI wa kiete mo
ถึงคราบน้ำตา(โปรงใส)ที่เปื้อนผ้าห่มสีขาวสะอาดจะหายไปก็ตาม
無意識に投げつけられた常識の絵の具で僕も染まっていく
muishiki ni nagetsukerareta joushiki ni e ni ku de boku mo somatteiku
ฉันก็ยังถูกย้อมด้วยสีแห่งสามัญสำนึกที่ถูกโยนใส่โดยไม่รู้ตัว
汚れたこの目で何を見ても
yogoreta kono me de nani wo mitemo
ไม่ว่าสายตาอันแปดเปื้อนนี้จะมองเห็นสิ่งใดก็ตาม
喜びなど見つかりはしなくて
yorokobi nado mitsukari wa shitenakute
ก็ไม่อาจมองเห็นเป็นความรื่นรมย์ยินดีได้อีกแล้ว
たとえば、僕の言葉じゃ 世界は止まらない 空しいほど
tatoeba boku no kotoba jya sekai wa tomaranai munashii hodo
ถึงแม้ว่าถ้อยคำของชั้น จะไม่อาจหยุดโลกที่ว่างเปล่าได้
でも君に届くなら 僕は叫ぶだろう
demo kimi ni todoku nara boku wa sakebu darou
แต่ถ้ามันจะส่งไปถึงเธอบ้าง เสียงร่ำร้องตะโกนของชั้น
ありふれた「愛してる」さえ 世界変える魔法になる
arifureta “aishiteru” sae sekai kaeru mahou ni naru
จะทำให้คำธรรมดาทั่วไปอย่าง "ชั้นรักเธอ" กลายเป็นเวทมนตร์ที่เปลี่ยนแปลงโลก
たとえば、君が死んでも 世界は変わらない 悲しいほど
tatoeba kimi ga shindemo sekai wa kawaranai kanashii hodo
ต่อให้เธอตายจากไปก็ตาม โลกนี้ก็ไม่แปรเปลี่ยน ยังน่าโศกเศร้าอยู่เช่นนั้น
でもそこに生きている 僕は変わってしまうよ
demo soko ni ikiteiru boku wa kawatte shimauyo
แต่ว่าตัวชั้นที่ยังมีชีวิต ก็คงจะต้องเปลี่ยนไปเป็นแน่
今日までの 君が作った輝きを胸に残して
kyou made no kimi ga tsukutta kagayaki wo mune ni nokoshite
ประกายในใจชั้น ที่เธอได้สร้างขึ้นจนถึงวันนี้ ก็คงดับไป
だから君と今 生きたい
dakara kimi to ima ikitai
เพราะอย่างนั้น ตอนนี้ถึงอยากมีชีวิตอยู่พร้อมกันกับเธอ
วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
011. [lyric translation] この指とまれ/Goose House
覚えてるかい yeah燃える情熱を
Oboeteru kai yeah moeru jounetsu wo
ยังจำได้ใช่มั้ย ความกระตือรือร้นที่ลุกโชน
支えあい 助け合えるさ
Sasaeai tasukeaeru sa
ถ้าประคับประคองซึ่งกันและกันจะต้องช่วยเหลือได้แน่
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
澄み渡る空明るい未来を信じがむしゃらに走ったあの頃
Sumiwataru sora Akarui mirai wo shinji Gamushara ni hashitta ano koro
ในตอนที่ออกวิ่งอย่างไม่ได้คิดอะไรด้วยเชื่อในอนาคตที่สว่างราวกับฟ้ากระจ่างใส
全力前進気付けば暗闇の中もがいてただけ
Zenryoku zenshin kidzukeba Kurayami no naka mogaiteta dake
มุ่งหน้าไปอย่างสุดกำลังจึงได้พบว่าแค่ดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความมืดเท่านั้น
若いからしょうがないとか慰めにもならない言葉 ばかり
Wakai kara shouganai toka Nagusame ni mo naranai kotoba bakari
‘เพราะว่ายังเยาว์วัยอยู่ มันก็ช่วยไม่ได้’ ถ้อยคำนี้ แค่หลอกตัวเองให้สบายใจก็ยังทำไม่ได้
傷跡を背負ったまま大人になって
Kizuato wo shotta mama otona ni natte
แล้วก็กลายเป็นผู้ใหญ่ทั้งๆที่แบกรับรอยแผลเหล่านั้นไว้
聞こえてるかい yeah 君を呼ぶ声
Kikoeteru kai yeah kimi wo yobu koe
ได้ยินใช่หรือเปล่า เสียงที่เรียกเธออยู่น่ะ
僕らが失った夢・希望はここにある
Bokura ga ushinatta yume kibou wa koko ni aru
ความฝันความหวังที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
覚えてるかい yeah燃える情熱を
Oboeteru kai yeah moeru jounetsu wo
ยังจำได้ใช่มั้ย ความกระตือรือร้นที่ลุกโชน
支えあい 助け合えるさ
Sasaeai tasukeaeru sa
ถ้าประคับประคองซึ่งกันและกันจะต้องช่วยเหลือได้แน่
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
連れ合う友を失う怖さにそうだねって誤魔化してたあの頃
Tsureau tomo wo ushinau kowasa ni Souda ne tte gomakashiteta ano koro
ช่วงเวลานั้นที่กลัวว่าจะเสียเพื่อนไปเลยพูดว่า ‘นั่นสินะ’ แบบหลอกลวง
本気でぶつかりあう大切さ忘れてたんだ
Honki de butsukariau taisetsu sa Wasureteta'n da
ลืมความสำคัญของการปะทะขัดแย้งด้วยความจริงใจไปแล้วโดยสิ้นเชิง
信じてるかい yeah目をそらさないで
Shinjiteru kai yeah Me wo sorasanaide
ยังเชื่อมั่นอยู่หรือเปล่า อย่าได้เบือนสายตาหนี
僕らが失った愛・絆はここにある
Bokura ga ushinatta ai kizuna wa koko ni aru
ความรักความผูกพันที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
知ってるかい yeah 歩き始めた
Shitteru kai yeah arukihajimeta
รู้ใช่มั้ย ว่าเมื่อเริ่มออกเดินแล้วน่ะ
一人じゃない僕らがいるさ
Hitori ja nai bokura ga iru sa
ไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีพวกเราอยู่นะ
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
そう! 悲しいときはともに泣き
Sou! Kanashii toki wa tomoni naki
ใช่แล้ว เวลาโศกเศร้าก็ร้องไห้ไปด้วยกัน
そう! 楽しいときはともに笑い
Sou! Tanoshii toki wa tomoni warai
ใช่แล้ว เวลาสนุกสนานก็หัวเราะไปด้วยกัน
そう! 辛いときは語り合って
Sou! Tsurai toki wa katariatte
ใช่แล้ว เวลาที่ทุกข์ทรมานก็มาพูดคุยกัน
そう! かけがえのない仲間共に行こう!
Sou! Kakegae no nai nakama Tomoni yukou
ใช่แล้ว ไปด้วยกันกับพวกพ้องที่ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้
聞こえてるかい yeah 君を呼ぶ声
Kikoeteru kai yeah kimi wo yobu koe
ได้ยินใช่หรือเปล่า เสียงที่เรียกเธออยู่น่ะ
僕らが失った夢・希望はここにある
Bokura ga ushinatta yume kibou wa koko ni aru
ความฝันความหวังที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
覚えてるかい yeah燃える情熱を
Oboeteru kai yeah moeru jounetsu wo
ยังจำได้ใช่มั้ย ความกระตือรือร้นที่ลุกโชน
支えあい 助け合えるさ
Sasaeai tasukeaeru sa
ถ้าประคับประคองซึ่งกันและกันจะต้องช่วยเหลือได้แน่
ためらわずに
Tamerawazu ni
เลิกลังเลแล้วก็...
信じてるかい yeah目をそらさないで
Shinjiteru kai yeah Me wo sorasanaide
ยังเชื่อมั่นอยู่หรือเปล่า อย่าได้เบือนสายตาหนี
僕らが失った愛・絆はここにある
Bokura ga ushinatta ai kizuna wa koko ni aru
ความรักความผูกพันที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
知ってるかい yeah 歩き始めたんだ
Shitteru kai yeah Aruki hajimeta'n da
รู้ใช่มั้ย ว่าเมื่อเริ่มออกเดินแล้วน่ะ
一人じゃない僕らがいるさ
Hitori ja nai bokura ga iru sa
ไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีพวกเราอยู่นะ
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
この指とまれ
Kono yubi tomare
จับมือนี้ไว้สิ
君はもう一人で歩いていけるもっと先へ進んでいけるだろう
Kimi wa mou hitori de aruite yukeru motto Saki he susunde yukeru darou
ถ้าเธอไม่ได้เดินคนเดียว เธอจะมุ่งหน้าไปได้ไกลกว่าเดิมใช่มั้ยล่ะ
振り返ればいつでもここにいるから
Furikaereba itsu demo koko ni iru kara
ถ้าหันกลับมา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงอยู่ตรงนี้เสมอ
その時は君の言葉でこの指とまれ
Sono toki wa kimi no kotoba de Kono yubi tomare
ดั่งเช่นถ้อยคำในช่วงเวลานั้นของเธอที่ว่า จับมือนี้ไว้สิ
Oboeteru kai yeah moeru jounetsu wo
ยังจำได้ใช่มั้ย ความกระตือรือร้นที่ลุกโชน
支えあい 助け合えるさ
Sasaeai tasukeaeru sa
ถ้าประคับประคองซึ่งกันและกันจะต้องช่วยเหลือได้แน่
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
澄み渡る空明るい未来を信じがむしゃらに走ったあの頃
Sumiwataru sora Akarui mirai wo shinji Gamushara ni hashitta ano koro
ในตอนที่ออกวิ่งอย่างไม่ได้คิดอะไรด้วยเชื่อในอนาคตที่สว่างราวกับฟ้ากระจ่างใส
全力前進気付けば暗闇の中もがいてただけ
Zenryoku zenshin kidzukeba Kurayami no naka mogaiteta dake
มุ่งหน้าไปอย่างสุดกำลังจึงได้พบว่าแค่ดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความมืดเท่านั้น
若いからしょうがないとか慰めにもならない言葉 ばかり
Wakai kara shouganai toka Nagusame ni mo naranai kotoba bakari
‘เพราะว่ายังเยาว์วัยอยู่ มันก็ช่วยไม่ได้’ ถ้อยคำนี้ แค่หลอกตัวเองให้สบายใจก็ยังทำไม่ได้
傷跡を背負ったまま大人になって
Kizuato wo shotta mama otona ni natte
แล้วก็กลายเป็นผู้ใหญ่ทั้งๆที่แบกรับรอยแผลเหล่านั้นไว้
聞こえてるかい yeah 君を呼ぶ声
Kikoeteru kai yeah kimi wo yobu koe
ได้ยินใช่หรือเปล่า เสียงที่เรียกเธออยู่น่ะ
僕らが失った夢・希望はここにある
Bokura ga ushinatta yume kibou wa koko ni aru
ความฝันความหวังที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
覚えてるかい yeah燃える情熱を
Oboeteru kai yeah moeru jounetsu wo
ยังจำได้ใช่มั้ย ความกระตือรือร้นที่ลุกโชน
支えあい 助け合えるさ
Sasaeai tasukeaeru sa
ถ้าประคับประคองซึ่งกันและกันจะต้องช่วยเหลือได้แน่
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
連れ合う友を失う怖さにそうだねって誤魔化してたあの頃
Tsureau tomo wo ushinau kowasa ni Souda ne tte gomakashiteta ano koro
ช่วงเวลานั้นที่กลัวว่าจะเสียเพื่อนไปเลยพูดว่า ‘นั่นสินะ’ แบบหลอกลวง
本気でぶつかりあう大切さ忘れてたんだ
Honki de butsukariau taisetsu sa Wasureteta'n da
ลืมความสำคัญของการปะทะขัดแย้งด้วยความจริงใจไปแล้วโดยสิ้นเชิง
信じてるかい yeah目をそらさないで
Shinjiteru kai yeah Me wo sorasanaide
ยังเชื่อมั่นอยู่หรือเปล่า อย่าได้เบือนสายตาหนี
僕らが失った愛・絆はここにある
Bokura ga ushinatta ai kizuna wa koko ni aru
ความรักความผูกพันที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
知ってるかい yeah 歩き始めた
Shitteru kai yeah arukihajimeta
รู้ใช่มั้ย ว่าเมื่อเริ่มออกเดินแล้วน่ะ
一人じゃない僕らがいるさ
Hitori ja nai bokura ga iru sa
ไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีพวกเราอยู่นะ
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
そう! 悲しいときはともに泣き
Sou! Kanashii toki wa tomoni naki
ใช่แล้ว เวลาโศกเศร้าก็ร้องไห้ไปด้วยกัน
そう! 楽しいときはともに笑い
Sou! Tanoshii toki wa tomoni warai
ใช่แล้ว เวลาสนุกสนานก็หัวเราะไปด้วยกัน
そう! 辛いときは語り合って
Sou! Tsurai toki wa katariatte
ใช่แล้ว เวลาที่ทุกข์ทรมานก็มาพูดคุยกัน
そう! かけがえのない仲間共に行こう!
Sou! Kakegae no nai nakama Tomoni yukou
ใช่แล้ว ไปด้วยกันกับพวกพ้องที่ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้
聞こえてるかい yeah 君を呼ぶ声
Kikoeteru kai yeah kimi wo yobu koe
ได้ยินใช่หรือเปล่า เสียงที่เรียกเธออยู่น่ะ
僕らが失った夢・希望はここにある
Bokura ga ushinatta yume kibou wa koko ni aru
ความฝันความหวังที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
覚えてるかい yeah燃える情熱を
Oboeteru kai yeah moeru jounetsu wo
ยังจำได้ใช่มั้ย ความกระตือรือร้นที่ลุกโชน
支えあい 助け合えるさ
Sasaeai tasukeaeru sa
ถ้าประคับประคองซึ่งกันและกันจะต้องช่วยเหลือได้แน่
ためらわずに
Tamerawazu ni
เลิกลังเลแล้วก็...
信じてるかい yeah目をそらさないで
Shinjiteru kai yeah Me wo sorasanaide
ยังเชื่อมั่นอยู่หรือเปล่า อย่าได้เบือนสายตาหนี
僕らが失った愛・絆はここにある
Bokura ga ushinatta ai kizuna wa koko ni aru
ความรักความผูกพันที่พวกเราสูญเสียไปนั้นได้มาอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้ว
知ってるかい yeah 歩き始めたんだ
Shitteru kai yeah Aruki hajimeta'n da
รู้ใช่มั้ย ว่าเมื่อเริ่มออกเดินแล้วน่ะ
一人じゃない僕らがいるさ
Hitori ja nai bokura ga iru sa
ไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีพวกเราอยู่นะ
ためらわずに この指とまれ
Tamerawazu ni kono yubi tomare
เลิกลังเลแล้วจับมือนี้ไว้สิ
この指とまれ
Kono yubi tomare
จับมือนี้ไว้สิ
君はもう一人で歩いていけるもっと先へ進んでいけるだろう
Kimi wa mou hitori de aruite yukeru motto Saki he susunde yukeru darou
ถ้าเธอไม่ได้เดินคนเดียว เธอจะมุ่งหน้าไปได้ไกลกว่าเดิมใช่มั้ยล่ะ
振り返ればいつでもここにいるから
Furikaereba itsu demo koko ni iru kara
ถ้าหันกลับมา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงอยู่ตรงนี้เสมอ
その時は君の言葉でこの指とまれ
Sono toki wa kimi no kotoba de Kono yubi tomare
ดั่งเช่นถ้อยคำในช่วงเวลานั้นของเธอที่ว่า จับมือนี้ไว้สิ
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
010. [lyric translation] 世界はぐー ちょき ぱー
大人は時々無理言うぞ
otona wa tokidoki muri iu zo
พวกผู้ใหญ่บางครั้งก็กล่าวเรื่องไร้เหตุผล
子供に真面目に無理言うぞ
kodomo ni majime ni muri iu zo
กล่าวเรื่องไร้เหตุผลให้กับเด็กๆได้อย่างจริงจังมาก
世界の人とは仲良しに国際的な人となれ
sekai no hito to wa nakayoshi ni kokusai-tekina hito to nare
จงไปเป็นเพื่อนกับผู้คนทั้งหลายทั้งปวงบนโลกนี้ให้ทั่วซะ
一緒に遊びたいけど
issho ni asobitaikedo
ก็อยากจะไปเล่นด้วยกันอยู่หรอกแต่ว่า
アメリカ10時でもう夜
AMERICA juu-ji de mou yoru
อเมริกาสี่ทุ่มยังเป็นกลางคืนอยู่เลย
北京は8時でまだ朝遊べない
PEKKIN wa hachi-ji de mada asa asobenai
ปักกิ่งก็พึ่งจะแปดโมงเช้า เลยไปเล่นด้วยไม่ได้
世界は一つじゃないんじゃあないかねえ
sekai wa hitotsu janai n janai ka nee
โลกนี้เป็นหนึ่งเดียวกันหรือว่าไม่ใช่กันแน่นะ
時計はばらばら中やさかさまだよ
tokei wa barabara chuuya saka-samada yo
นาฬิกานั้นช่างกระจัดกระจายไปทั่วและกลับหัวกลับหางไปหมด
世界はぐー ちょき ぱー で だから楽しくなる
sekai wa gu- choki pa- dedakara tanoshiku naru
โลกที่เป็นทั้งค้อนกรรไกรกระดาษมันก็สนุกสนานดี
皆違うからあいこでしょ
minna chigaukara aikodesho
เพราะว่าทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันจริงมั้ยล่ะ
大人は時々無理言うぞ
otona wa tokidoki muri iu zo
พวกผู้ใหญ่บางครั้งก็กล่าวเรื่องไร้เหตุผล
子供に真面目に無理言うぞ
kodomo ni majime ni muri iu zo
กล่าวเรื่องไร้เหตุผลให้กับเด็กๆได้อย่างจริงจังมาก
勉強頑張れやり抜けば天才的な人となる
benkyou ganbare yari nukeba tensai tekina hito to naru
ถ้าพยายานขยันเรียนแล้วล่ะก็ จะกลายเป็นบุคคลอัจฉริยะ
所があるんだ向き不向き
tokoro ga arunda muki fumuki
สถานการณ์มันก็ต้องมีทั้งเรื่องที่ถนัดและไม่ถนัด
エジソン国語は零点
EDISON kokugo wa rei ten
เอดิสันวิชาภาษาได้ศูนย์คะแนน
アインシュタインは鉄棒超下手落第生
EINSTEIN wa tetsubou chou heta rakudai-sei
ไอน์สไตน์เป็นนักเรียนซ้ำชั้นที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
一番が一つあればいいんだねえ
ichiban ga hitotsu areba iinda nee
ถ้ามีสิ่งที่เป็นหนึ่งได้ซักอย่างก็คงจะดีนะ
放課後元気はくらすで一番だよ
houkago genki wa kurasu de ichibanda yo
การมีสุขภาพดีหลังเลิกเรียนเป็นอันดับหนึ่งในชั้นเรียนไงล่ะ
子供はぐー ちょき ぱー で 学校楽しくなる
kodomo wa gu- choki pa- de gakkou tanoshiku naru
เด็กๆที่เป็นทั้งค้อนกรรไกรกระดาษทำให้โรงเรียนนั้นสนุก
皆違うからあいこでしょ
minna chigaukara Aikodesho
เพราะว่าทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันจริงมั้ยล่ะ
パン屋魚屋本屋となりの花屋
pan ya sakana ya hon ya tonari no hana ya
ร้านขนมปัง ร้านขายปลา ร้านหนังสือถัดจากร้านขายดอกไม้
いろいろあるから商売班女の顔
iro iro arukara shoubai hanjo no kao
ทั้งร้านขายของและใบหน้าสาวๆหลากหลายไปหมด
街はぐー ちょき ぱー で通りはにぎやかに
machi wa gu- choki pa- de touri wa nigiyaka ni
เมืองที่มีทั้งค้อนกรรไกรกระดาษทำให้ถนนหนทางดูมีชีวิตชีวา
皆違うからあいこでしょ
minna chigaukara aikodesho
เพราะว่าทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันจริงมั้ยล่ะ
金魚はひらひら池の中土壌は上価値の中
kingyo wa hirahira ike no naka dojou wa uekachi no naka
ปลาทองแหวกว่ายไปมาในบ่อ ก้อนดินอยู่ท่ามกลางของมีค่า
真似して泳ぐやついないだから僕だけ 僕の真似
mane shite oyogu yatsu inaidakara boku dake boku no mane
ยังไม่มีใครเลียนแบบการแหวกว่ายของเจ้านั่น เพราะฉะนั้นเฉพาะตัวชั้น การเลียนแบบของชั้น
otona wa tokidoki muri iu zo
พวกผู้ใหญ่บางครั้งก็กล่าวเรื่องไร้เหตุผล
子供に真面目に無理言うぞ
kodomo ni majime ni muri iu zo
กล่าวเรื่องไร้เหตุผลให้กับเด็กๆได้อย่างจริงจังมาก
世界の人とは仲良しに国際的な人となれ
sekai no hito to wa nakayoshi ni kokusai-tekina hito to nare
จงไปเป็นเพื่อนกับผู้คนทั้งหลายทั้งปวงบนโลกนี้ให้ทั่วซะ
一緒に遊びたいけど
issho ni asobitaikedo
ก็อยากจะไปเล่นด้วยกันอยู่หรอกแต่ว่า
アメリカ10時でもう夜
AMERICA juu-ji de mou yoru
อเมริกาสี่ทุ่มยังเป็นกลางคืนอยู่เลย
北京は8時でまだ朝遊べない
PEKKIN wa hachi-ji de mada asa asobenai
ปักกิ่งก็พึ่งจะแปดโมงเช้า เลยไปเล่นด้วยไม่ได้
世界は一つじゃないんじゃあないかねえ
sekai wa hitotsu janai n janai ka nee
โลกนี้เป็นหนึ่งเดียวกันหรือว่าไม่ใช่กันแน่นะ
時計はばらばら中やさかさまだよ
tokei wa barabara chuuya saka-samada yo
นาฬิกานั้นช่างกระจัดกระจายไปทั่วและกลับหัวกลับหางไปหมด
世界はぐー ちょき ぱー で だから楽しくなる
sekai wa gu- choki pa- dedakara tanoshiku naru
โลกที่เป็นทั้งค้อนกรรไกรกระดาษมันก็สนุกสนานดี
皆違うからあいこでしょ
minna chigaukara aikodesho
เพราะว่าทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันจริงมั้ยล่ะ
大人は時々無理言うぞ
otona wa tokidoki muri iu zo
พวกผู้ใหญ่บางครั้งก็กล่าวเรื่องไร้เหตุผล
子供に真面目に無理言うぞ
kodomo ni majime ni muri iu zo
กล่าวเรื่องไร้เหตุผลให้กับเด็กๆได้อย่างจริงจังมาก
勉強頑張れやり抜けば天才的な人となる
benkyou ganbare yari nukeba tensai tekina hito to naru
ถ้าพยายานขยันเรียนแล้วล่ะก็ จะกลายเป็นบุคคลอัจฉริยะ
所があるんだ向き不向き
tokoro ga arunda muki fumuki
สถานการณ์มันก็ต้องมีทั้งเรื่องที่ถนัดและไม่ถนัด
エジソン国語は零点
EDISON kokugo wa rei ten
เอดิสันวิชาภาษาได้ศูนย์คะแนน
アインシュタインは鉄棒超下手落第生
EINSTEIN wa tetsubou chou heta rakudai-sei
ไอน์สไตน์เป็นนักเรียนซ้ำชั้นที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
一番が一つあればいいんだねえ
ichiban ga hitotsu areba iinda nee
ถ้ามีสิ่งที่เป็นหนึ่งได้ซักอย่างก็คงจะดีนะ
放課後元気はくらすで一番だよ
houkago genki wa kurasu de ichibanda yo
การมีสุขภาพดีหลังเลิกเรียนเป็นอันดับหนึ่งในชั้นเรียนไงล่ะ
子供はぐー ちょき ぱー で 学校楽しくなる
kodomo wa gu- choki pa- de gakkou tanoshiku naru
เด็กๆที่เป็นทั้งค้อนกรรไกรกระดาษทำให้โรงเรียนนั้นสนุก
皆違うからあいこでしょ
minna chigaukara Aikodesho
เพราะว่าทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันจริงมั้ยล่ะ
パン屋魚屋本屋となりの花屋
pan ya sakana ya hon ya tonari no hana ya
ร้านขนมปัง ร้านขายปลา ร้านหนังสือถัดจากร้านขายดอกไม้
いろいろあるから商売班女の顔
iro iro arukara shoubai hanjo no kao
ทั้งร้านขายของและใบหน้าสาวๆหลากหลายไปหมด
街はぐー ちょき ぱー で通りはにぎやかに
machi wa gu- choki pa- de touri wa nigiyaka ni
เมืองที่มีทั้งค้อนกรรไกรกระดาษทำให้ถนนหนทางดูมีชีวิตชีวา
皆違うからあいこでしょ
minna chigaukara aikodesho
เพราะว่าทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันจริงมั้ยล่ะ
金魚はひらひら池の中土壌は上価値の中
kingyo wa hirahira ike no naka dojou wa uekachi no naka
ปลาทองแหวกว่ายไปมาในบ่อ ก้อนดินอยู่ท่ามกลางของมีค่า
真似して泳ぐやついないだから僕だけ 僕の真似
mane shite oyogu yatsu inaidakara boku dake boku no mane
ยังไม่มีใครเลียนแบบการแหวกว่ายของเจ้านั่น เพราะฉะนั้นเฉพาะตัวชั้น การเลียนแบบของชั้น
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559
009. [lyric translation] 手紙 ~拝啓 十五の君へ~
「手紙 ~拝啓 十五の君へ~」アンジェラ·アキ
「Tegami~Haikei Juugo No Kimi E~」Angela Aki
จดหมายถึงตัวเธอเมื่ออายุ15 - Angela Aki
拝啓 この手紙読んでいるあなたは どこで何をしているのだろう
Haikei kono tegami yondeiru anata wa Doko de nani wo shiteiru no darou
ถึงตัวเธอผู้ที่กำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ กำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกันนะ
十五の僕には誰にも話せない 悩みの種があるのです
Juugo no boku ni wa dare ni mo hanasenai Nayami no tane ga aru no desu
ตัวชั้นเมื่ออายุ15นั้นมีเมล็ดแห่งความกังวลใจที่ไม่สามารถบอกใครได้
未来の自分に宛てて書く手紙なら きっと素直に打ち明けられるだろう
Mirai no jibun ni atete kaku tegami nara Kitto sunao ni uchiake rareru darou
แต่ถ้าเขียนจดหมายถึงตนเองในอนาคต ก็สามารถปรึกษาด้วยอย่างตรงไปตรงมาได้แน่นอนใช่มั้ยล่ะ
今 負けそうで 泣きそうで 消えてしまいそうな僕は 誰の言葉を信じ歩けばいいの?
Ima makesou de nakisou de Kieteshimaisou na boku wa Dare no kotoba wo Shinji arukeba ii no?
ในตอนนี้ ตัวชั้นที่ได้พ่ายแพ้ร้องไห้และใกล้จะสูญสลายไป จะเชื่อถ้อยคำของใครได้อีกหรือ?
ひとつしかないこの胸が何度もばらばらに割れて 苦しい中で今を生きている
Hitotsu shika nai kono mune ga nando mo barabara ni warete Kurushii naka de ima wo ikiteiru
จิตใจนี้ที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นถูกฉีกกระชากครั้งแล้วครั้งเล่า ปัจจุบันมีชีวิตอยู่ในความเศร้าโศก
今を生きている
Ima wo ikiteiru
ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่
拝啓 ありがとう 十五のあなたに伝えたい事があるのです
Haikei arigatou juugo no anata ni Tsutaetai koto ga aru no desu
ถึงตัวเธอเมื่ออายุ15 ขอบใจนะ มีสิ่งที่อยากบอกให้เธอรู้
自分とは何でどこへ向かうべきか 問い続ければ見えてくる
Jibun to wa nani de doko e mukau beki ka Toitsu dzukereeba mietekuru
ถ้ายังถามตนเองต่อไปเรื่อยๆได้ว่าจะไปที่ไหนจะเป็นอะไรย่อมต้องค้นพบอย่างแน่นอน
荒れた青春の海は厳しいけれど 明日の岸辺へと 夢の舟よ進め
Areta seishun no umi wa kibishii keredo Asu no kishibe e to yume no fune yo susume
แม้ว่าคลื่นลมและอุปสรรคในทะเลแห่งวัยเยาว์จะโหดร้ายรุนแรง เรือแห่งความฝันก็จะแล่นต่อไปสู่ฝั่งแห่งอนาคต
今 負けないで 泣かないで 消えてしまいそうな時は 自分の声を信じ歩けばいいの
Ima makenai de nakanai de Kieteshimaisou na toki wa Jibun no koe wo shinjiaru keba ii no
ตอนนี้ อย่ายอมแพ้ อย่าร้องไห้ ในช่วงเวลาที่กำลังจะสูญสลายให้เชื่อเสียงของตนเองนั่นแหละดี
大人の僕も傷ついて眠れない夜はあるけど 苦くて甘い今を生きている
Otona no boku mo kizutsuite Nemurenai yoru wa aru kedo Nigakute amai ima ikiteiru
ตัวชั้นที่เป็นผู้ใหญ่ก็เช่นกัน แม้จะมีคืนที่เจ็บปวดจนนอนไม่หลับ ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตแบบหวานๆขมๆ
人生の全てに意味があるから 恐れずにあなたの夢を育てて
Jinsei no subete ni imi ga aru kara Osorezu ni anata no yume wo sodatete
เพราะทุกสิ่งในชีวิตล้วนมีความหมาย จงปล่อยให้ความฝันของเธอนั้นเติบโตอย่างไร้ซึ่งความกลัว
La la la, la la la, la la la
Keep on believing
La la la, la la la, la la la
Keep on believing, keep on believing, keep on believing
負けそうで 泣きそうで 消えてしまいそうな僕は 誰の言葉を信じ歩けばいいの?
Makesou de nakisou de Kieteshimaisou na boku wa Dare no kotoba wo shinji arukeba ii no?
ตัวชั้นที่ได้พ่ายแพ้ร้องไห้และใกล้จะสูญสลายไป จะเชื่อถ้อยคำของใครได้อีกหรือ?
ああ 負けないで 泣かないで 消えてしまいそうな時は 自分の声を信じ歩けばいいの
Aa Makenai de nakanai de Kieteshimaisou na toki wa Jibun no koe wo shinjiarukeba ii no
อย่ายอมแพ้ อย่าร้องไห้ ในช่วงเวลาที่กำลังจะสูญสลายให้เชื่อเสียงของตนเองนั่นแหละดี
いつの時代も悲しみを避けては通れないけれど 笑顔を見せて 今を生きていこう
Itsu no jidai mo kanashimi wo Sakete wa torenai keredo Egao wo misete ima wo ikite yukou
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน การหลีกเลี่ยงจากความโศกเศร้านั้นเป็นไปไม่ได้ จะมีชีวิตที่สามารถยิ้มให้กับปัจจุบันได้
今を生きていこう
Ima wo ikite yukou
จะมีชีวิตกับปัจจุบัน
拝啓 この手紙読んでいるあなたが 幸せな事を願います
Haikei kono tegami yondeiru anata ga Shiawase na koto wo negaimasu
ถึงตัวเธอผู้ที่กำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ ขอให้พบเจอแต่ความสุข
「Tegami~Haikei Juugo No Kimi E~」Angela Aki
จดหมายถึงตัวเธอเมื่ออายุ15 - Angela Aki
拝啓 この手紙読んでいるあなたは どこで何をしているのだろう
Haikei kono tegami yondeiru anata wa Doko de nani wo shiteiru no darou
ถึงตัวเธอผู้ที่กำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ กำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกันนะ
十五の僕には誰にも話せない 悩みの種があるのです
Juugo no boku ni wa dare ni mo hanasenai Nayami no tane ga aru no desu
ตัวชั้นเมื่ออายุ15นั้นมีเมล็ดแห่งความกังวลใจที่ไม่สามารถบอกใครได้
未来の自分に宛てて書く手紙なら きっと素直に打ち明けられるだろう
Mirai no jibun ni atete kaku tegami nara Kitto sunao ni uchiake rareru darou
แต่ถ้าเขียนจดหมายถึงตนเองในอนาคต ก็สามารถปรึกษาด้วยอย่างตรงไปตรงมาได้แน่นอนใช่มั้ยล่ะ
今 負けそうで 泣きそうで 消えてしまいそうな僕は 誰の言葉を信じ歩けばいいの?
Ima makesou de nakisou de Kieteshimaisou na boku wa Dare no kotoba wo Shinji arukeba ii no?
ในตอนนี้ ตัวชั้นที่ได้พ่ายแพ้ร้องไห้และใกล้จะสูญสลายไป จะเชื่อถ้อยคำของใครได้อีกหรือ?
ひとつしかないこの胸が何度もばらばらに割れて 苦しい中で今を生きている
Hitotsu shika nai kono mune ga nando mo barabara ni warete Kurushii naka de ima wo ikiteiru
จิตใจนี้ที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นถูกฉีกกระชากครั้งแล้วครั้งเล่า ปัจจุบันมีชีวิตอยู่ในความเศร้าโศก
今を生きている
Ima wo ikiteiru
ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่
拝啓 ありがとう 十五のあなたに伝えたい事があるのです
Haikei arigatou juugo no anata ni Tsutaetai koto ga aru no desu
ถึงตัวเธอเมื่ออายุ15 ขอบใจนะ มีสิ่งที่อยากบอกให้เธอรู้
自分とは何でどこへ向かうべきか 問い続ければ見えてくる
Jibun to wa nani de doko e mukau beki ka Toitsu dzukereeba mietekuru
ถ้ายังถามตนเองต่อไปเรื่อยๆได้ว่าจะไปที่ไหนจะเป็นอะไรย่อมต้องค้นพบอย่างแน่นอน
荒れた青春の海は厳しいけれど 明日の岸辺へと 夢の舟よ進め
Areta seishun no umi wa kibishii keredo Asu no kishibe e to yume no fune yo susume
แม้ว่าคลื่นลมและอุปสรรคในทะเลแห่งวัยเยาว์จะโหดร้ายรุนแรง เรือแห่งความฝันก็จะแล่นต่อไปสู่ฝั่งแห่งอนาคต
今 負けないで 泣かないで 消えてしまいそうな時は 自分の声を信じ歩けばいいの
Ima makenai de nakanai de Kieteshimaisou na toki wa Jibun no koe wo shinjiaru keba ii no
ตอนนี้ อย่ายอมแพ้ อย่าร้องไห้ ในช่วงเวลาที่กำลังจะสูญสลายให้เชื่อเสียงของตนเองนั่นแหละดี
大人の僕も傷ついて眠れない夜はあるけど 苦くて甘い今を生きている
Otona no boku mo kizutsuite Nemurenai yoru wa aru kedo Nigakute amai ima ikiteiru
ตัวชั้นที่เป็นผู้ใหญ่ก็เช่นกัน แม้จะมีคืนที่เจ็บปวดจนนอนไม่หลับ ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตแบบหวานๆขมๆ
人生の全てに意味があるから 恐れずにあなたの夢を育てて
Jinsei no subete ni imi ga aru kara Osorezu ni anata no yume wo sodatete
เพราะทุกสิ่งในชีวิตล้วนมีความหมาย จงปล่อยให้ความฝันของเธอนั้นเติบโตอย่างไร้ซึ่งความกลัว
La la la, la la la, la la la
Keep on believing
La la la, la la la, la la la
Keep on believing, keep on believing, keep on believing
負けそうで 泣きそうで 消えてしまいそうな僕は 誰の言葉を信じ歩けばいいの?
Makesou de nakisou de Kieteshimaisou na boku wa Dare no kotoba wo shinji arukeba ii no?
ตัวชั้นที่ได้พ่ายแพ้ร้องไห้และใกล้จะสูญสลายไป จะเชื่อถ้อยคำของใครได้อีกหรือ?
ああ 負けないで 泣かないで 消えてしまいそうな時は 自分の声を信じ歩けばいいの
Aa Makenai de nakanai de Kieteshimaisou na toki wa Jibun no koe wo shinjiarukeba ii no
อย่ายอมแพ้ อย่าร้องไห้ ในช่วงเวลาที่กำลังจะสูญสลายให้เชื่อเสียงของตนเองนั่นแหละดี
いつの時代も悲しみを避けては通れないけれど 笑顔を見せて 今を生きていこう
Itsu no jidai mo kanashimi wo Sakete wa torenai keredo Egao wo misete ima wo ikite yukou
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน การหลีกเลี่ยงจากความโศกเศร้านั้นเป็นไปไม่ได้ จะมีชีวิตที่สามารถยิ้มให้กับปัจจุบันได้
今を生きていこう
Ima wo ikite yukou
จะมีชีวิตกับปัจจุบัน
拝啓 この手紙読んでいるあなたが 幸せな事を願います
Haikei kono tegami yondeiru anata ga Shiawase na koto wo negaimasu
ถึงตัวเธอผู้ที่กำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ ขอให้พบเจอแต่ความสุข
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)